Leap Castle Coolderry ปราสาทสมัยศตวรรษที่ 13 แห่งนี้ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งมากว่า 700 ปี และเป็นพยานถึงประวัติศาสตร์อันวุ่นวาย มันยืนหยัดผ่านประวัติศาสตร์นองเลือดและการสูญเสียชีวิต ความรัก และทารกที่เกิดมากำแพงปราสาทเป็นพื้นที่แสดงเรื่องราวความโหดร้ายและประวัติศาสตร์อันมืดมิดที่เกินจินตนาการของคุณ
Leap Castle Coolderry
ปราสาทไอริชแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงระหว่างศตวรรษที่ 13 ถึงปลายศตวรรษที่ 15 มีการเสียชีวิตที่น่าสยดสยองมากกว่างานแต่งงานของGame of Thrones ตามตำนานเล่าว่า ระหว่างการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจภายในกลุ่ม O’Carroll (ซึ่งชอบวางยาพิษแขกที่มารับประทานอาหารค่ำ) สมาชิกคนหนึ่งพุ่งดาบใส่น้องชายของเขา ซึ่งเป็นนักบวช ในขณะที่เขากำลังถือพิธีมิสซาในโบสถ์ของปราสาท ห้องนี้เรียกว่า “โบสถ์กระหายเลือด” และมีการกล่าวกันว่านักบวชจะหลอกหลอนโบสถ์ในตอนกลางคืน ความสยองขวัญไม่ได้จบเพียงแค่นั้น
อย่างน้อยก็ไม่เป็นไปตามประวัติศาสตร์ที่น่าขยะแขยงที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของปราสาท ในระหว่างการบูรณะในช่วงต้นทศวรรษ 1900 คนงานพบดันเจี้ยนลับในโบสถ์ หลังจากที่ปราสาทถูกทำลายในปี 1922 งานซ่อมแซมก็ได้ค้นพบคุกใต้ดินที่ซ่อนอยู่ซึ่งเต็มไปด้วยซากศพ คิดว่าเหยื่ออาจถูกโยนมาที่นี่ผ่านประตูกลที่ซ่อนอยู่ ไม่มีการนับจำนวนศพที่แน่นอน แต่ต้องใช้เกวียนสามเกวียนเพื่อกำจัดกระดูกมนุษย์ทั้งหมดคุกใต้ดินได้รับการออกแบบเพื่อให้นักโทษตกทางประตูกับดัก ปอดของพวกเขาถูกแทงด้วยไม้แหลมบนพื้น และตายอย่างช้าๆ อย่างน่าสยดสยอง
ในปี 1922 ปราสาทถูกไฟไหม้และถูกทำลายระหว่างสงครามกลางเมืองในไอร์แลนด์ ปราสาทถูกทิ้งร้างจนถึงปี 1974 เมื่อปีเตอร์ บาร์ตเล็ตต์ ซึ่งเป็นทายาทชาวออสเตรเลียของตระกูลโอแบนนอนซื้อปราสาทนั้น เขาเริ่มการบูรณะปราสาทจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1989 จากนั้นฌอนและแอนน์ ไรอันจึงซื้อปราสาท มันยังคงเป็นของเอกชนโดย Ryans ยังคงดำเนินการซ่อมแซมปราสาทมาจนถึงทุกวันนี้
ปราสาทปัจจุบันเป็นบ้านส่วนตัว ดังนั้นจึงไม่สามารถเยี่ยมชมโครงสร้างทั้งหมดได้ อย่างไรก็ตาม บางครั้ง Ryans อนุญาตให้สำรวจชั้นบนบางส่วนที่ยังคงอยู่ในซากปรักหักพัง
สนับสนุนโดย : เซ็กซี่บาคาร่า
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *