Captain Joe Byrd Cemetery Huntsville, Texas สุสานกัปตันโจเบิร์ด ผู้ต้องขังขุดหลุมฝังศพที่สุสานคุกที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่พำนักแห่งสุดท้ายของทั้งคาวบอยและอินเดียนแดง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1853 พื้นที่ 22 เอเคอร์ทางใต้ของเมืองฮันต์สวิลล์รัฐเท็กซัสถูกใช้เป็นที่ฝังศพนักโทษ เมื่อสมาชิกในครอบครัวล้มเหลวในการออกมาเรียกร้องผู้ตาย (เพราะไม่มีกำลังหรือเพราะพวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าฝังศพได้) ศพจะถูกฝังไว้ที่สุสานกัปตันโจเบิร์ด
Copper Ghost Preserved In Michigan
Captain Joe Byrd Cemetery สุสานกัปตันโจเบิร์ด
สุสานกัปตันโจเบิร์ดได้รับการบำรุงรักษาไม่ดีและไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรจนถึงปี 1970 ในปีพ.ศ. 2505 ผู้ช่วยผู้คุมหน่วย Walls กัปตันโจ เบิร์ด ได้ดำเนินโครงการบันทึกและบำรุงรักษาในสุสาน จัดทำรายการและจัดหาศิลาฤกษ์อย่างง่ายสำหรับหลุมศพที่เขาสามารถระบุได้
ในปี 2555 กระทรวงยุติธรรมทางอาญาของรัฐเท็กซัสประเมินว่าสุสานมีหลุมศพ 2,100 หลุม แต่การวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐอินเดียนาระบุว่ามีสุสานมากถึง 3,000 หลุม หลุมศพส่วนใหญ่ไม่ระบุชื่อ ไม้หรือไม้กางเขนคอนกรีต หรือแผ่นพื้นที่มีหมายเลขผู้ต้องขัง
หากมีแต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้จักชื่อกันดี รวมถึงหลุมศพของหัวหน้าเผ่า Kiowa ของอินเดีย Satanta ซึ่งฆ่าตัวตายขณะถูกคุมขังในปี 1878 คาวบอย ลี สมิธมีศิลาฤกษ์ที่ใหญ่ที่สุดในสุสาน ซึ่งได้รับบริจาคจากคาวบอยเพื่อนฝูง ฆาตกรต่อเนื่อง เฮนรี ลี ลูคัส ซึ่งคาดว่าจะฆ่า 157 คนรวมทั้งแม่ของเขา ก็ถูกฝังที่นี่เช่นกัน
หลุมศพของนักโทษประหาร ซึ่งคิดเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ของสุสาน ระบุด้วยตัวเลข “99” หรือ “X” หรือ “EX” งานบำรุงรักษาและฝังศพทั้งหมดสำหรับสุสานดำเนินการโดยนักโทษ พวกเขาขุดหลุมศพ สกัดหินหัว และเข้าร่วมงานศพซึ่งนำโดยอนุศาสนาจารย์ในเรือนจำในตอนเช้า พวกเขาขุดหลุมฝั่งศพ แทบจะทุกวันไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
สนับสนุนโดย : ufa877
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *