The Ghosts in La Villita ของซานอันโตนิโอเป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ก่อนยุค Alamo ที่ดินแปลงนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นชุมชนของชนพื้นเมืองอเมริกัน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา La Villita มีระดับสูงสุดและต่ำสุด ครั้งหนึ่งย่านนี้ถูกมองว่าเป็นสลัม แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา La Villita อันเก่าแก่ได้เปลี่ยนมุมลง และได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะชุมชนศิลปะที่เฟื่องฟู และอนาคตก็ดูสดใสอีกครั้งสำหรับย่านนี้
ตัวเมืองซานอันโตนิโอมีร้านค้า อาคาร และโรงแรมเก่าแก่ตั้งเรียงราย ซึ่งหลายแห่งมีผีสิง La Villita เป็นพื้นที่แห่งหนึ่งของใจกลางเมืองซึ่งถือว่าเป็นแหล่งกิจกรรมเหนือธรรมชาติ ดังนั้นจึงปลอดภัยที่จะพูดว่า La Villita (The Little Village) เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่แสวงหาทุกสิ่งเหนือธรรมชาติ เหตุการณ์ประหลาดบางอย่างที่จะเกิดขึ้นใน La villita มาในรูปแบบของวัตถุที่เคลื่อนไหวไปรอบๆ อย่างเป็นธรรมชาติ การโต้เถียงแบบหลอนๆ อุณหภูมิที่ลดลง และเงามืด
บางคนรายงานว่าเห็นวิญญาณของผู้หญิงในผ้ากันเปื้อน ในขณะที่คนอื่น ๆ ได้พบกับ “ผู้หญิงในชุดขาว” แต่ที่น่าขนลุกที่สุดคือตำนานของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่น่ากลัวซึ่งกล่าวกันว่าอาศัยอยู่ในบ้านลาวิลลิตา La Villita เป็นสถานที่หลอกหลอนยามค่ำคืนอย่างแน่นอน ดังนั้นหากคุณพบว่าตัวเองอยู่ในละแวกนั้นในช่วงหลังเลิกงาน ไม่ต้องแปลกใจหากคุณเจอหนึ่งในวิญญาณเหล่านี้ในเงามืด
The Ghosts in La Villita วิญญาณแห่งลาวิลลิตา
ประวัติศาสตร์อันน่าสะพรึงกลัวของซานอันโตนิโอได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดี และอาจไม่มีสถานที่ใดที่จะดีเลิศเลอยิ่งกว่าย่านใจกลางเมือง คุณไม่จำเป็นต้องไปล่าท้าผีเพื่อเผชิญหน้า พวกเขาจะตามหาคุณเอง นอกจากนี้ ในเมืองที่โชกไปด้วยเลือดแห่งความตายอย่างซานอันโตนิโอ ทำไมคุณถึงเต็มใจที่จะผจญภัยเพื่อแสวงหาหนึ่งในวิญญาณอาฆาตที่อาจเป็นไปได้เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ผู้คนมักจะไปย่านใจกลางเมืองด้วยความหวังว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์ผีๆ
สถานที่ยอดนิยมบางแห่งสำหรับกิจกรรมอาถรรพณ์ ได้แก่ Spanish Mansion, Alamo, Menger Hotel นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เก่าแก่ที่สุดในซานอันโตนิโออีกด้วย และที่ใดที่คุณมีอาคารเก่าแก่ คุณมักจะมีผี เมื่อพิจารณาทั้งหมดแล้ว La Villita อาจเป็นย่านที่มีผีสิงมากที่สุดในซานอันโตนิโอหากไม่ใช่เท็กซัส
บทความโดย : ufa168
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *