Cisco Utah ซิสโก้ ยูทาห์ ในทะเลทรายนอกทางหลวงหมายเลข 6/Interstate 70 ของสหรัฐฯ ใกล้ชายแดนโคโลราโด เป็นเมืองทางรถไฟที่ขรุขระของซิสโก้ รัฐยูทาห์ ดูเหมือนอะไรบางอย่างในหนังสยองขวัญจริงๆ ซิสโก้เริ่มจากการเป็นจุดให้น้ำที่จำเป็นมากสำหรับเครื่องยนต์ไอน้ำของ Denver และ Rio Grande Western Railroad
Cisco Utah ซิสโก้ ยูทาห์
ในช่วงปี 1880 เมืองค่อยๆ เติบโตขึ้นรอบๆ สถานีรถไฟ ซึ่งรองรับคนเลี้ยงวัวและคนเลี้ยงแกะในบริเวณใกล้เคียงเป็นหลัก ด้วยทางรถไฟ การตั้งถิ่นฐานอย่างรวดเร็วกลายเป็นศูนย์เสบียงและการขนส่งสำหรับปศุสัตว์ที่อยู่ใน Book Cliffs ที่อยู่ใกล้เคียง อันที่จริง ในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ มีการตัดหัวแกะกว่า 100,000 ตัวที่นี่ก่อนที่จะส่งออกสู่ตลาด บนเส้นทางรถไฟสายหลักจากแกรนด์จังค์ชัน โคโลราโดถึงซอลท์เลคซิตี้รัฐยูทาห์
ทางรถไฟได้บำรุงรักษาแท้งค์น้ำสำหรับหัวรถจักรและโรงเก็บ และอาคารหลายส่วน แม้ว่าบางครั้งฝนตามฤดูกาลจะก่อให้เกิดทุ่งหญ้าและถังเก็บน้ำที่แห้งเต็มถัง แต่น้ำส่วนใหญ่สำหรับพื้นที่นี้ต้องถูกดึงเข้ามาก่อนแล้วจึงต่อท่อเข้ามาจากแม่น้ำโคโลราโดที่อยู่ใกล้เคียง ในปี พ.ศ. 2467 มีการค้นพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคนี้ ซึ่งช่วยส่งเสริมเมืองนี้ ครั้งหนึ่ง Cisco เป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในรัฐ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อชาวอเมริกันเริ่มมีความรักในรถยนต์และเริ่มเดินทางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน Cisco เป็นที่พักใจสำหรับนักเดินทางที่กระหายน้ำที่มุ่งหน้าผ่านทะเลทรายที่แห้งแล้ง ตั้งอยู่บนทางหลวงสายหลักผ่านภูมิภาค ณ เวลานั้น (US 6/50) มีธุรกิจหลายแห่งผุดขึ้นเพื่อให้บริการผู้ที่ผ่านไปมา รวมถึงร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และรถเก๋ง
ในปี 1940 เมืองนี้ถูกเรียกว่าบ้านของคนประมาณ 200 คน หนึ่งในธุรกิจสุดท้ายที่จะอยู่รอดใน Cisco คือปั๊มน้ำมันและร้านอาหารรวมกัน หลังจากปิดตัวลง Cisco ก็กลายเป็นเมืองร้างอย่างแท้จริง โดยมีอาคารและธุรกิจร้างจำนวนมาก ตั้งอยู่ท่ามกลางทางรถไฟเก่าและขยะจากบ่อน้ำมัน และรถยนต์ขึ้นสนิมนับสิบคัน เกือบทุกอย่างที่นี่พังทลายและถูกทำลาย ยกเว้นบ่อน้ำมันใหม่ 2-3 แห่งที่ขุดในบริเวณใกล้เคียงในปี 2548
สนับสนุนโดย : คาสิโนออนไลน์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *