Our Lady of Guadalupe Church ประวัติโบสถ์พระแม่แห่งกัวดาลูปณ จุดนี้ อาจไม่ใช่เรื่องแปลกใจมากนักที่พบว่าการเสียชีวิตจากไข้เหลืองและนิวออร์ลีนส์ต้องผ่านโรคระบาดใหญ่ 23 รายการมาควบคู่กันโบสถ์เก็บศพเก่าเป็นที่ต้องการอย่างมาก ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรค ความตื่นตระหนกเป็นไข้ขึ้นเมื่อนึกถึงการฝากศพทั้งหมด มีพื้นที่ไม่เพียงพอ แม้กระทั่งตอนที่มีคนไปเก็บศพชั่วคราวอย่างเช่น 625 St. Philip Street ใน French Quarter
ศพเรียงรายอยู่ตามถนน ซ้อนกันสูงและกว้าง กว้างมากจนยากที่จะตัดผ่านทางเท้าได้เลย การแพร่กระจายของโรคเกิดจากพื้นที่ปิดภายในเมืองและการขาดความสะอาด แหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ มีความกระตือรือร้นที่จะตำหนิ ความบาปของเมืองแทน และบางคนถึงกับกล่าวหาว่าขบวนแห่ศพเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคไข้เหลืองแพร่ระบาดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่มีทางรักษาให้หายได้ ซากศพยังคงกองพะเนิน บางครั้งก็ระเบิดออกในฤดูร้อนที่ร้อนชื้น สิ่งที่ต้องทำ
กฎหมายห้ามการแสดงศพที่มหาวิหารเซนต์หลุยส์ ซึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิกเพียงแห่งเดียวในเวลานั้น ในปี พ.ศ. 2369 ได้มีการก่อตั้งโบสถ์ The Old Mortuary Church ขึ้นแทน ตั้งอยู่ใกล้กับสุสานเซนต์หลุยส์ #1 ทำให้การเดินทางค่อนข้างรวดเร็วในการนำศพไปฝัง สุสานเซนต์หลุยส์ 1 อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ช่วงตึก
แต่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในหนองน้ำเพื่อหวังจะป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจายภายในสุสานและเข้าไปในเมืองในช่วงที่มีการแพร่ระบาดสูงสุด รถโดยสารประจำทางและรถขนส่งศพยังคงต่อแถวเป็นระยะทางเกือบ 2.5 ไมล์ ขณะที่ครอบครัวรอเข้าร่วม
Our Lady of Guadalupe วิญญาณของโบสถ์
เป็นที่น่าแปลกใจหรือไม่ว่า Old Mortuary Church ในอดีตอาจเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีผีสิงมากกว่าในนิวออร์ลีนส์? สมาชิกในครอบครัวไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวเท้าเข้าไปในโบสถ์ เพราะกลัวว่าพวกเขาจะติดโรคได้เช่นกันซึ่งหมายความว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีเพียงศพเดียวที่เดินผ่านประตูหน้าของโบสถ์ที่ฝังศพคือนักบวช ผู้ถือพาล และคนตายนับพันนับหมื่นที่ยอมจำนนต่อสิ่งที่บางคนเรียกว่า Saffron Scourge หากความสงสัยของเราถูกต้อง แสดงว่าแม่พระแห่งกวาดาลูเปถูกรบกวนด้วยพลังงานที่หลงเหลืออยู่อย่างแน่นอน อาจจะมากกว่าวิญญาณที่ชาญฉลาดที่ไม่ได้ส่งต่อไปยังอีกด้านหนึ่ง
บทความโดย : แทงบอลออนไลน์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *