Joshua Ward House มีประวัติที่ค่อนข้างโด่งดัง สร้างขึ้นสำหรับพ่อค้าทะเลผู้มั่งคั่งอย่าง Joshua Ward ในปี 1784 อาคาร 2 ชั้นที่สร้างด้วยอิฐสไตล์รัฐบาลกลางแห่งนี้เคยมีทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ของ South River ขณะที่เรือแล่นผ่านไปยังบอสตัน มุมมองด้านหน้าของแม่น้ำแบบเต็มตาของที่พักก็มาถึงจุดสูงสุดในปี 1830 เมื่อมีการถมทางน้ำที่ Front Street
แม้จะมีทัศนียภาพที่ไม่ค่อยสวยงามนัก แต่บ้านของ Joshua Ward ก็ยังคงเป็นหนึ่งในบ้านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดนับตั้งแต่มีการก่อสร้างครั้งแรก แม้แต่ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตันก็เคยไปเยี่ยมเยียนเมื่อเขาเดินทางไปซาเลมในปี 1789
Joshua Ward House บ้านผีสิง
ในเมืองซาเลม รัฐแมสซาชูเซตส์ มีบ้านเพียงหลังเดียวที่ถูกพูดถึงด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบาและมองด้วยความประหม่า นั่นคือบ้านโจชัว วอร์ดโชคดีสำหรับคนส่วนใหญ่ คฤหาสน์สไตล์รัฐบาลกลางสมัยศตวรรษที่ 19 ที่ 148 Washington Street ไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม เนื่องจากปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ Higginson Book Company และ Carlson Realty การหลอกหลอนที่น่ากลัวจนน่ากลัวของมันจึงถูกผลักไสให้มีเพียงพนักงานและผู้ตรวจสอบอาถรรพณ์หายากเท่านั้นที่อนุญาตให้เข้าไปข้างในได้
แต่สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์โดยตรงในการก้าวเข้าไปใน Joshua Ward House พวกเขามักจะออกไปพร้อมกับการเผชิญหน้าอาถรรพณ์ที่ไม่สงบที่สุด เทียนอันธพาลปลิวว่อนจากชั้นวาง ความเจ็บปวด เสียงร้องเหมือนผีของเด็กการพบเห็นวิญญาณผู้หญิงเป็นเรื่องปกติที่บ้าน โดยเฉพาะที่ชั้นบน มันเป็นหลักฐานอาถรรพณ์ชิ้นหนึ่งที่ส่งวิญญาณอันธพาลนี้ไปสู่ดาราระดับนานาชาติ ในช่วงปี 1980 Carlson Realty จัดงานเลี้ยงฉลองวันหยุดครั้งใหญ่ เมื่อพนักงานคนหนึ่งถ่ายภาพโพลารอยด์อย่างรวดเร็ว เมื่อเขย่าแล้ว คาร์ลสันคาดว่าจะเห็นภาพผู้หญิงผมสีอ่อนกำลังสนุกสนานกับงานปาร์ตี้
สิ่งที่เขาเห็นเมื่อมองลงมาเป็นสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ผู้หญิงผมสีเข้มที่มีลักษณะหยาบกร้านและผิวที่ซีดและโปร่งแสงจนต้องมองอีกครั้งเมื่อ Robert Cahill ตีพิมพ์หนังสือของเขาที่ชื่อ Ghostly Haunts เขาได้รวมภาพของบุคคลที่มีผีเข้าไว้ และภาพดังกล่าวก็ได้รับความสนใจจากสถานีข่าวโทรทัศน์รายใหญ่ทั่วเคาน์เตอร์ รายงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการเห็นร่างผมสีเข้มนี้นอนอยู่บนชั้นสองก็หลุดออกมา และส่วนใหญ่ถือว่าวิญญาณผู้หญิงเป็นหนึ่งในแม่มดที่จอร์จ คอร์วินถูกจับและคุมขัง
บทความโดย : แทงบอลออนไลน์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *